ซึ่งมีเดียฯ มี "บริษัท กรุงเทพโทรทัศน์และวิทยุ จํากัด" ผู้บริหารช่อง 7 สี เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ อธิบายความให้เข้าใจง่ายๆ มีเดียฯก็เป็นบริษัทลูกของช่อง 7 สีนั่นเอง
จากนั้นมีเดียฯ ก็แตกบริษัทลูกออกมาอีก เป็น "มีเดีย สตูดิโอ" โดยมีธุรกิจหลักคือช่องเคเบิลทีวี "มีเดีย แชนแนล" พร้อมกับมีแผนจะเปิดอีก 4 ช่องในเร็วๆ นี้ ขณะที่บริษัทแม่ มีเดียฯ ผลิตรายการข่าวให้กับช่อง 7 สี 3 รายการ คือ เช้านี้ที่หมอชิต, ประเด็นเด็ด 7 สี และเจาะเกาะติด
นอกจากนี้ยังมีรายการบันเทิงวาไรตี้อีก 3 รายการ อาทิ ซิทคอมเฮฮาหน้าซอย, เส้นทางเศรษฐี และ 1 สมอง 2 มือ ทั้งรายการข่าวและวาไรตี้ของมีเดียฯ ว่าไปแล้ว เรทติ้งไม่ใช่ขี้ไก่ ดีกว่าอีกหลายรายการที่มี อยู่ในผังช่อง 7 สีด้วยซ้ำ
มีเดียฯ มี "ชาลอต โทณวณิก" เป็นหัวเรือหลัก นั่งกุมบังเหียน ส่วน "มีเดีย สตูดิโอ" มี "น็อต-นุติ เขมะโยธิน" เป็นกรรมการผู้จัดการ ที่ผ่านมามีเดียฯ พยายามจะขยายธุรกิจสื่อให้มากขึ้น โดยเฉพาะรายการข่าว "ประเด็นเด็ด 7 สี" ที่มี "ต๊ะ-นารากร ติยายน" เป็นพิธีกร ตอนนี้เรทติ้งอันดับ 1 จึงขอเวลาไปยังช่อง 7 สี เพื่อขยายเวลาออกอากาศเพิ่มในวันเสาร์-อาทิตย์ ส่วนละครก็มี "คุ้มผาคํา" และ "ส้มหวาน น้ำตาลเปรี้ยว" ซึ่งวางแพลนเอาไว้เรียบร้อย บางเรื่องถ่ายทําแล้ว และเตรียมจะปิดกล้องในเร็วๆ นี้
ปัจจุบัน "มีเดีย ออฟ มีเดียส์" ได้เปิดทางให้กลุ่ม "บุญดีเจริญ" เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ โดยบริษัท กรุงเทพโทรทัศน์และวิทยุ จํากัด ลดสัดส่วนการถือหุ้นลงจากเดิม 73.73% เหลือแค่ 39.28% โดยกลุ่ม "บุญดีเจริญ" ถือหุ้นใหญ่สัดส่วน 52.33%
หลังการเปลี่ยนผ่านครั้งนี้ ทําให้มีเดียฯ ต้องโยกธุรกิจจากหมวด "บันเทิง" ไปอยู่ในหมวดอสังหาริมทรัพย์ ปิดฉากบทบาท "ธุรกิจบันเทิง" โดยสิ้นเชิง แต่สถานภาพของ "มีเดีย สตูดิโอ" ก็ยังเป็น "บริษัทลูก" เหมือนเดิม แม้ว่าจะมีผู้ถือหุ้นกลุ่มใหม่เข้ามาแทนที่ก็ตาม ซึ่งเป็นข้อผูกพันที่เกิดตามกฎหมาย ธุรกิจบันเทิงที่เคยมีอยู่ในมีเดียฯ ถูกถ่ายโอนมาอยู่บนบ่า "มีเดีย สตูดิโอ" ทั้งหมด
"ชาลอต" ซึ่งเคยเป็นซีอีโอของมีเดียฯ เมื่อเปลี่ยนผู้ถือหุ้นและเปลี่ยนธุรกิจ ได้ยื่นใบลาออกจากมีเดียฯ ซึ่งบอร์ดของมีเดียฯ อนุมัติทันทีไม่มีการยับยั้ง จนกลายเป็นประเด็น ทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์ ส่วนรายการ-ละคร ที่เคยเสนอให้กับช่อง 7 สีอนุมัติ ถูกดองเฉยเลย
แม้ "ชาลอต" จากมีเดียฯ แต่ก็ยังเป็นบอร์ด "มีเดีย สตูดิโอ" ซึ่งมีอยู่ด้วยกัน 5 คน นอกจาก "ชาลอต" แล้ว ยังมี เชิดศักดิ์ ตันสกุล, ชลอ นาคอ่อน, พลากร สมสุวรรณ และ นุติ เขมะโยธิน ส่วนรายการอื่นๆ ที่ออกอากาศอยู่กับช่อง 7 สี ยังดําเนินอยู่ปกติ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เพียงแต่อาจจะหวั่นไหวกับอนาคต ที่ยังไม่ชัดเจน เพราะที่ผ่านมาล้วนเป็นเรื่องธุรกิจล้วนๆ ยังไม่เห็นผู้ใหญ่คนไหนไม่ว่าจะเป็นซีกช่อง 7 สี หรือมีเดียฯ เอง ออกมาพูดถึงเส้นทาง "ธุรกิจบันเทิง" ใน มีเดีย สตูดิโอ ว่าจะเป็นยังไง?
อนาคต...และแล้ว "มีเดีย สตูดิโอ" ก็ถึงการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง เมื่อมติผู้ถือหุ้นของมีเดียฯ ที่ประชุมกันเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2553 พร้อมกับแจ้งผลการประชุมต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ผลการประชุมเป็นยังไง? ตามผมมาครับ..บอร์ดมีเดียฯ มีมติอนุมัติเพิ่มทุนจดทะเบียนของ "มีเดีย สตูดิโอ" จาก 50 ล้าน เป็น 343,897,960 บาท เพิ่มพรวดเกือบ 300 กว่าล้าน
ถ้ามองในเชิงธุรกิจ เท่ากับเพิ่มความแข็งแกร่งให้ "มีเดีย สตูดิโอ" มีสถานะทางการเงินที่มั่นคง จะขยับขยายอะไรก็คล่องตัว แต่การเพิ่มทุนครั้งนี้ มีเดียฯ เข้าซื้อทั้งหมดในราคาพาร์ 10 บาทต่อหุ้น ในรายการที่แจ้งต่อตลาดหุ้น ให้รายละเอียดต่ออีกว่า..หลังจากนั้นให้โอนขายหุ้น "มีเดีย สตูดิโอ" ที่บริษัทถืออยู่ทั้งหมด ภายหลังการจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุน 34,389,794 หุ้น ให้แก่ "บริษัท สตรอง โฮลด์ แอสเซ็ทส์ จํากัด" ซึ่งเป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกันกับบริษัทในราคาซื้อขาย หุ้นละ 11.6398 บาท หรือ 400,291,000 บาท
มาถึงตรงนี้ ผมก็เลยถึงบางอ้อ แค่ระยะเวลาไม่ถึงเดือน กลเกมแห่งเงินตราก็เพิ่มค่าให้กับมีเดียฯ เกือบ 60 ล้าน จากผลต่างของราคาหุ้น ที่ซื้อมาในราคา 10 บาท แต่ขายให้ "สตรอง โฮลด์ แอสเซ็ทส์" ราคา 11.6398 บาท บวกลบคูณหารกันเอาเองอู้ฟู่ขนาดไหน?
"สตรอง โฮลด์ แอสเซ็ทส์" เป็นใคร...ที่ผ่านมาในแวดวงคนทํา "ธุรกิจบันเทิง" ไม่เคยได้ยินชื่อนี้ แล้วจู่ๆ เข้ามาซื้อหุ้น "มีเดีย สตูดิโอ" ได้อย่างไร? ถ้าเป็นบริษัท กรุงเทพโทรทัศน์และวิทยุ จํากัด ก็ว่าไปอย่าง หลังจากสืบค้นไปค้นมา จากบางอ้อก็ถึงบาง "อ๋อ" เป็นคนกันเองหรือที่ภาษาจีนเรียกว่า "กากี่นั้ง" ทั้งนั้น เพราะมี บีบีทีวี, ทุนมหาลาภ, ทุนมหาโชค, ทุนรุ่งเรือง ฯลฯ ถือหุ้นอยู่ใน "สตรอง โฮลด์ แอสเซ็ทส์"
ว่าไปแล้ว สถานะ "มีเดีย สตูดิโอ" จากอดีต-ปัจจุบัน และ "อนาคต" ก็ไม่ต่างจากลูกฟุตบอล ที่เตะส่งกันไป-มาระหว่างผู้เล่นไม่กี่คน แถมทุกครั้งที่ส่งลูกจะต้องมี "กําไร" เกิดขึ้น
ส่วนอนาคตที่แท้จริงของ "มีเดีย สตูดิโอ" บนเส้นทางสาย "ธุรกิจบันเทิง" ภายใต้ร่มเงา "สตรอง โฮลด์" จะเป็นเช่นไร?...มีใครให้ความกระจ่างได้บ้างครับ!! ♦