เมื่อไม่ได้ปล้นใครกิน อยากทําอะไรก็ทํา แต่สิ่งที่ต้องเติมใส่ในอาชีพนี้ก็คือ "สํานึกที่ดี" ซึ่งประกอบด้วยความเหมาะสม-คุณธรรม-จริยธรรม ไม่มีอะไรที่เป็นมาตรฐานว่า "ดารา" จะต้องทําแบบนั้น เป็นอย่างนี้ แต่ความพอดี-ความเหมาะสม ต้องแยกแยะให้ออก
คําว่า "ดารา" คือคนที่มีชื่อเสียง เป็นที่รู้จักของสังคมทั่วประเทศ เมื่อ "ดารา" กับ "ความดัง" คือสิ่งที่คู่กัน แต่วิธีที่จะสร้าง "ความดัง" ซึ่งเป็นอินโทรในการได้มาซึ่งทรัพย์สิน เงินทอง ไม่ใช่แค่คิดว่าร่างกายเรา จะทําอะไรก็ได้ โดยไม่แคร์ว่าสังคมจะได้รับผลกระทบอะไรบ้าง?
ไม่ผิดหรอกที่ดารารุ่นใหม่ๆจะคิดอย่างนั้น แต่ "ดารา" ไม่ใช่ว่าเอะอะจะถอดผ้าอย่างเดียว ประมาณว่า "เงินมา ผ้าหลุด" ซึ่งเป็นวิธีคิดที่ "ง่าย" เกินไป และก็ใช่ว่าการสร้างกระแสแบบนี้จะคงอยู่ตลอดไป ตราบใดที่เนื้อหนังมังสายังเต่งตึงก็ยังมีคนจ้าง แต่พออายุขึ้นหลัก 30 กว่าๆ จะมีใครบ้างที่อยากดู
ดาราหลายคนแม้จะแต่งงานมีครอบครัว บางคนมีลูกมีเต้า แต่กระแสก็ยังไม่ตก มีให้เห็นกันอยู่ ไม่ใช่ว่าจะไม่มีเลย...อดีตคําว่า "ดารา" กับการแต่งงาน คือของแสลงสําหรับดาราบ้านเรา โดยเฉพาะ "ดาราหญิง" เพราะกลัวความนิยมจะเสื่อม
สังคมปัจจุบันไม่เป็นอย่างนั้นอีกแล้ว การแต่งงานไม่ใช่ของต้องห้าม เป็นธรรมชาติที่มนุษย์ทุกคนปฏิเสธไม่ได้ ที่สําคัญคือไม่จําเป็นจะต้อง "ขายเรือนร่าง" เหมือนอย่าง "ค่านิยม" ของดารารุ่นใหม่ที่เป็นอยู่ในวันนี้
"หมิว-ลลิตา ศศิประภา" อดีตเธอคือนางเอกหมายเลข 1 ของช่อง 3 ละครทุกเรื่องที่ "หมิว-ลลิตา" เล่น การันตีเรทติ้งได้ตลอด ตอนนี้แต่งงาน มีลูก มีครอบครัวที่อบอุ่น แต่ก็ยังอยู่ในกระแสอย่างต่อเนื่อง แม้งานละครจะไม่มีให้เห็น ไม่เหมือนกับช่วงที่กลับเมืองไทยใหม่ๆ ซึ่งตอนนั้น "หมิว" มีละครอย่างต่อเนื่อง อาทิ เจ้าสาวกลัวฝน, กุหลาบสีดํา แต่ยังมีงานโฆษณาเป็นพรีเซนเตอร์สินค้าที่ยังออนแอร์หน้าจอทีวี
"นุส-นุสบา ปุณณกันต์" หลังแต่งงานกลับมาประเดิมละครเรื่อง "มังกรเดียวดาย" ของค่ายเอ็กแซ็กท์ ค่ายที่เธอแจ้งเกิดในวงการ จากนั้นก็มีหนัง-ละครให้เล่นอย่างต่อเนื่อง ทุกวันนี้ "นุสบา" ก็ยังเล่นละครอยู่เหมือนเดิม แม้ว่าจะไม่ถี่เหมือนช่วงที่ยังเป็นสาว แต่ก็ไม่หายไปจากวงการเสียทีเดียว ฝีมือยังจัดจ้าน ประมาณว่า ยิ่งอายุมากทักษะด้านการแสดงยิ่งเพิ่มสูงขึ้น ดูแล้วเนียนตา ไม่มีที่ติ
"นก-สินจัย เปล่งพานิช" แต่งงานกับ "นก-ฉัตรชัย" มีลูกชาย 2 คน คนโตเป็นหนุ่มแถมหน้าตาดีและลูกสาวอีก 1 แม้จะมีข่าวลือออกมาต่างๆ นานา เพื่อจะโยกคลอนเสาเรือน แต่ทั้ง "นกหญิง-นกชาย" ก็ไม่ใส่ใจ ยังประคองนาวารักเป็นครอบครัวอบอุ่นอยู่เหมือนเดิม
"นก-สินจัย" ผ่านประสบการณ์ทั้งหนัง-ละคร ไม่ต่างจาก "หมิว-นุส" ระยะหลังหนักไปทางละคร ตามกระแสที่หนังไทยไม่ "เปรี้ยง" เหมือนอดีต
"นก-สินจัย" อาจจะต่างจาก "หมิว-นุส" ที่งานละคร-อีเว้นท์ของเธอยังชุก ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะเธอยังเดินเข้า-ออกช่อง 3 ผู้จัดไม่ว่าจะเป็นรุ่นพี่-รุ่นน้อง ส่วนใหญ่สนิทกับ "นก-สินจัย" ทั้งนั้น และเข้าได้กับทุกกลุ่ม ไม่ผูกขาดอยู่กับเจ้าใดเจ้าหนึ่ง ที่สําคัญฝีมือการแสดงของ "นก-สินจัย" คงเส้นคงวา เล่นได้ทุกบทไม่ว่าดี-เลว เธอรับได้หมด เป็นนักแสดง "มืออาชีพ" ที่คนในวงการบันเทิงให้การยอมรับตลอดมา
"หมิว-นุส-นก" ถือเป็นแบบอย่างของดาราที่สร้างเรทติ้งให้ตัวเองด้วยการเอาผลงานเป็นเครื่องพิสูจน์ แม้จะมีสามี-ลูก แต่สังคมคนเสพสื่อก็ยังสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง คําว่าเอาผลงานเป็นเครื่องพิสูจน์ สะท้อนถึงเส้นทางที่คงทนถาวรต่อกระแสความนิยม เพราะคนเสพบันเทิงซึ่งเปลี่ยนจากรุ่นเก่ามาสู่รุ่นใหม่มากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ได้มองที่สถานภาพใครโสด ใครมีครอบครัวอีกแล้ว แต่มอง "ผลงาน" เป็นหลัก
ไม่มีใครเถียงในเรื่องสิทธิส่วนบุคคลที่ "ขายเรือนร่าง" เพื่อสร้างเรทติ้ง แต่บทเรียนนี้มีดาราหลายคนเดินอยู่ในร่องแอ่งนี้ จุดจบเป็นอย่างไรมีให้เห็นนักต่อนัก แม้จะฮือฮา แต่ก็เป็นความดังเพียงชั่วข้ามคืน ยิ่งตอนนี้มีดาราใหม่ๆ ทยอยเข้ามาสู่วงการแยะ แถมสดกว่า สวยกว่า คนดูอยากดูใคร คิดกันเอาเอง?
ดาราบางคนเฮ้วอยู่ในผับ บาร์ แถมมีข่าวกับผู้ชายตลอด แต่ไม่เคย "ใส่ใจ" เพราะคิดว่า ไม่ได้ทําอะไรเสียหาย แต่เหรียญอีกด้าน คนมองว่า เหมาะสมหรือไม่ ทั้งๆที่อายุอยู่ในช่วงวัยรุ่น
ดาราทุกคนคิดเองได้ จะเป็นต้นไม้รากเน่าก่อนโต หรือจะเป็นไม้ใหญ่ที่รากมั่นคง เรื่องแบบนี้สอนใครไม่ได้เลย นอกจากจะคิดเอง!! ♦