ปกติแล้วผมไม่ค่อยดูละครเป็นล่ำเป็นสันมากนัก ถ้ามีเวลาก็จะ "ดู" เพื่อที่พรุ่งนี้เช้าจะได้คุยกับคนอื่นรู้เรื่อง แต่ส่วนใหญ่มักจะไม่ได้ดูมากกว่า ตามประสาคนนอนดึกตื่นสาย แต่หลายวันก่อนมีโอกาสดูละคร "พระจันทร์ลายพยัคฆ์"ทางช่อง 7 สี
ต้องยอมรับว่า "อั้ม-พัชราภา"เล่นได้สมกับเป็นนางเอกแถวหน้าของเมืองไทย ดาราหลายคน พออายุมากขึ้นตามวัย จะออกอาการงกๆ เงิ่นๆ เล่น "ไม่นิ่ง"เหมือนอดีต หนักๆ เข้าก็หายไปจากวงการ หรือไม่ก็เปลี่ยนบท...น่าเสียดายแทน
แต่ "อั้ม-พัชราภา"ไม่ว่าจะเล่นบทไหน เรื่องไหน เธอตีแตกกระจุย ดูแล้วเนียนตา ยิ่งผสมกับความเซ็กซี่ที่มีอยู่ในตัวของเธอ เลยกลายเป็นเสน่ห์ ที่โกยเรทติ้งให้อย่างใจปรารถนา
สังเกตละครของ "อั้ม-พัชราภา"แทบจะทุกเรื่อง ในช่วง 3-4 ปีมานี้ เรทติ้งแรงตลอด แทบจะบ้านเว้นบ้าน จะต้องเปิดดูละครที่ "อั้ม-พัชราภา"เล่นทั้งนั้น ไม่ใช่เรื่องเวอร์ แต่เป็นเรื่องจริงที่พิสูจน์ได้
ไม่เชื่อก็ลองถามบ้าน ร้านตลาดดูก็ได้ มีใครรู้จัก "จันทร์ฉาย"ใน "พระจันทร์ลายพยัคฆ์"หรือไม่?...รับรองยกมือกันพรึ่บ!!
"ช่อง 7 สี"เป็นสถานีเดียวก็ว่าได้ ที่ไม่นิยมเด็ดดอกไม้ในอุทยาน หรือ "มี"ก็คาดว่า "มีน้อย"แม้จะเจอวิกฤติดารา "ถูกดูด"จากช่อง "คู่แข่ง"แต่ก็ไม่สะทกสะท้าน ใช้ความสงบสยบคู่แข่ง เดินหน้าทําตามร่องแอ่ง วิถีของตัวเอง สร้างคนรุ่นใหม่ แทนที่ "คนเก่า"อยู่ตลอด
"ดาราหญิง"ที่อยู่ในข่าย "นางเอก"ไม่ใช่เรื่องยากสําหรับ 7 สี เพราะมีเวทีประกวดหลากหลายที่ส่งป้อนให้ทุกปี ไม่ว่าจะเป็นเวที มิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส ที่สถานีจัดประกวดเอง
นอกจากนี้ยังมี เวทีดัชชี่, มิสทีนไทยแลนด์ ฯลฯ ซึ่งสาวงามที่อยู่ในอันดับต้นๆ ของเวทีเหล่านี้ ล้วนแต่เข้าสังกัดเป็นดารา 7 สี แทบทั้งนั้น
"ดาราชาย"อาจจะไม่มีเวทีประกวดโดยตรง แต่ส่วนใหญ่ก็ผ่านเวทีมาแล้ว ทั้งจากดัชชี่ หรือเวทีประกวดอินดี้ ซึ่งอาจจะยากหน่อยที่จะดังเปรี้ยงปร้างในชั่วข้ามคืน
แต่สําหรับช่อง 7 สี ไม่ใช่เรื่อง "ยาก"ที่จะปั้นให้ "ดัง"ในเรื่องเดียว ผมดูละครเรื่อง "พระจันทร์ลายพยัคฆ์"รู้เรื่องบ้าง-ไม่รู้เรื่องบ้าง ตามประสาคนที่ไม่ได้ดูต่อเนื่อง แต่สิ่งหนึ่งที่ผมเห็นได้จากละครเรื่องนี้ ทําไม? เขาไม่ให้บท "อั้ม-พัชราภา"คู่กับ "เวียร์-ศุกลวัฒน์"แล้วให้อีกคู่เป็น "ยุ้ย-จีรนันท์"กับ "อ๋อม-อรรคพันธ์”
"ดี คู่ ดี" "ร้าย คู่ ร้าย"จะได้สะใจชาวบ้านไปเลย แต่ละครไม่เป็นยังงั้น ให้ "พัชราภา"คู่กับ "อ๋อม-อรรคพันธ์"เป็นความตั้งใจที่สถานีจะให้เป็นยังงั้น? เหมือนที่ผมจั่วหัวเอาไว้ นั่นคือให้บทบาท "อั้ม-พัชราภา"เป็นมากกว่า "จันทร์ฉาย"ที่มีอยู่ในละคร แต่เป็นการเพิ่มบทบาทของ "อั้ม-พัชราภา"ในฐานะ "เจ๊ดัน”
ก่อนนี้หลายคนอาจจะไม่รู้จัก "อ๋อม-อรรคพันธ์"มากนัก หรือรู้ก็แค่ พยักหน้าเพื่อไม่ให้เสียฟอร์ม แต่วันนี้ทุกคนรู้จักทั้งประเทศ ไม่ใช่แค่ "วายุ"ในละคร แต่เขากําลังจะก้าวผ่านไปสู่ "พระเอก"ดาวรุ่งของช่อง 7 สี ทีเดียว
ย้อนอดีต ละคร "แจ๋วใจร้ายคุณชายเทวดา"ละครแชมป์ประเทศที่กวาดรางวัลแยะ "อั้ม-พัชราภา"ประกบกับ "เป้-อารักษ์"วันนี้ "เป้-อารักษ์"เป็นยังไงล่ะ? จากนักร้องมาดเซอร์กลายเป็นพระเอกชื่อดัง งานรุมเพียบทั้งอีเว้นท์ และโฆษณา ประมาณว่าใช้บริการ "อั้ม-พัชราภา"ฟักไข่ให้ก็ "เปรี้ยง"ทันที
"ซี-ศิวัฒน์"พระเอกดาวรุ่งอีกคนของช่อง 7 สี ถือว่าดังมาจาก "อั้ม-พัชราภา"เช่นกันในเรื่อง "ปิ่นมุก"แม้แต่ "เวียร์-ศุกลวัฒน์"เล่นคู่กับ "อั้ม-พัชราภา"ในเรื่อง "เย้ยฟ้าท้าดิน"แจ้งเกิดทันที ก่อนจะเป็นพระเอกคิวทองในขณะนี้
แนวคิดของ "คุณแดง-สุรางค์ เปรมปรีดิ์"ต้องยอมรับว่า ไม่ได้คิดแค่ชั้นเดียว เพียงแค่ทําละครสนุก เข้าตาชาวบ้านเท่านั้น แต่คิด "ลึก"มากกว่านั้น นั่นคือทําละครไป-สร้างเด็กใหม่ไปด้วย โดยใช้ดาราระดับเกรดเอ.ของสถานีอย่าง "อั้ม-พัชราภา"เข้ามาเป็นพลังขับเคลื่อน
"ช่อง 7 สี"จึงไม่เคยเหือดแห้งดารา จะมีดาราหน้าใหม่ๆ ทั้งพระเอก-นางเอก เข้ามาทดแทนกันอยู่ตลอดเวลา
"กบ-สุวนันท์ คงยิ่ง"เป็นอีกคนหนึ่งที่ช่อง 7 สี วางตัวให้เป็น "เจ๊ดัน"มาตลอด แต่วันนี้ส่งให้ "อั้ม-พัชราภา"รับไม้ต่อ ส่วน "กบ-สุวนันท์"หันไปเล่นอยู่วงนอก ด้วยการเปิดโรงเรียนสอนการแสดง "สุวนันท์ อคาเดมี่”
ถ้าเปรียบ "อั้ม-พัชราภา"กับ "กบ-สุวนันท์"นอกเหนือจากคําว่า "ดารา"แล้ว ทั้งคู่ยังมีบทบาทที่เหมือนกัน เพียงแต่ "ต่าง"สถานที่เท่านั้น
"อั้ม-พัชราภา"ทําหน้าที่นักปั้นในจอทีวี ขณะที่ "กบ-สุวนันท์"รับหน้าที่นี้นอกจอ เจอวิธีคิดแนวปฏิบัติแบบนี้ ไม่มีทางที่ "7 สี"จะเจอวิกฤติดารา!! ♦