เป็นหัวเรือหลัก ก็เดินเข้าสู่เลข 13 ทําละครให้กับช่อง 7 สี รวมทั้งช่อง 3 ไม่ต่ำกว่า 30 เรื่อง บางเรื่องเรทติ้งกระฉูด บางเรื่องก็ "แป้ก" ไม่เป็นท่าเหมือนกัน
เรทติ้ง "ดี-ไม่ดี" ไม่มีใครสามารถจะบอกได้ล่วงหน้า ขึ้นอยู่กับจังหวะ-โอกาส และเกิดได้กับผู้จัดฯ ทุกราย ไม่ใช่ว่าเป็นผู้จัดฯ ค่ายใหญ่ มีชื่อเสียง ทําละครแล้วจะ "โชะ" ทุกเรื่องทุกเจ้าต่างประสบความสําเร็จ-ล้มเหลว มาด้วยกันทั้งสิ้น ตราบใดที่คําว่า "เรทติ้ง" ยังเป็นตัวกําหนด "ดี-ไม่ดี" ทั้งๆ ที่ไม่ได้เกี่ยวกับเนื้อหาแต่อย่างใด?
"เป่าจินจง" ต้องหอบหมอนหอบเสื่อออกจากช่อง 7 สีก็เพราะเหตุนี้ "ช่อง 3" คือ "บ้านเก่า" ของ "ตู่-นพพล" ก่อนที่จะย้ายไปทําละครให้กับ "ช่อง 7" ต้องนับถือ "น้ำใจ" ของช่อง 3 อย่างหนึ่ง นั่นคือ ไม่เคยอาฆาต และผูกใจเจ็บไปอยู่ที่อื่นไม่มีความสุข พร้อมจะอ้าแขนรับ แม้ว่าเวลาของสถานีจะมี 24 ชั่วโมง ขณะที่ผู้จัดทั้งละคร-รายการ มีเป็นกระตั้กแต่อะไรที่ช่วยได้ ก็ต้อง "ช่วย" ไม่ต่างจาก "พ่อ" ที่ดูแลลูก จะดี-เลว ยังไงๆ ก็ตัดกันไม่ขาด
"เป่าจินจง" ถือเป็นค่ายละครเดียว ที่ยังคงรักษาเอกลักษณ์ การทําละคร"คุณภาพ" โดยหยิบเอาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงนั้นๆ เข้ามา "เติม" อยู่ในละครเสมอๆ
"เก็บแผ่นดิน" ละครที่เคยสร้างเรทติ้งให้กับช่อง 7 สี นําเอาสถานการณ์ชายแดนทางภาคเหนือที่มีการสู้รบระหว่างชนกลุ่มน้อยกับรัฐบาลพม่า จนแทบจะไม่มีที่อยู่ กระทั่งต้องลุกขึ้นมาสู้เพื่อรักษาแผ่นดินของตัวเองเอาไว้บ่วงบรรจถรณ์, เมืองดาหลา หรือ เพลงผ้าฟ้าล้อมดาว ฯลฯ ต่างก็สะท้อนวิถีชีวิต-วัฒนธรรมในอีกมิติหนึ่งให้คอละครได้รับรู้
ในช่วงที่กระแสเศรษฐกิจพอเพียงกําลังบูม ซึ่งคนส่วนใหญ่ไม่รู้ว่า เศรษฐกิจพอเพียงมีหน้าตายังไง "ตู่-นพพล" ก็ทําละคร "สายน้ำ สามชีวิต" ขึ้นมา เพื่อคนดูจะได้เห็นรูปธรรมที่ชัดเจน และน้อมนําหลักปรัชญาไปใช้ในชีวิต
"แม่อายสะอื้น" เป็นละครที่สร้างเรทติ้งให้กับช่อง 7 สี ระดับแชมป์ประเทศ กวาดรางวัลจากเวทีต่างๆ แทบจะทั้งหมด
ผลงานเหล่านี้ ล้วนแต่การันตีฝีมือ "เป่าจินจง" ในการผลิตละคร ที่เหนือกว่าผู้จัดละครชื่อดังๆ อีกหลายเจ้า ที่สําคัญคือ ละคร "เป่าจินจง" ใช่ว่าจะไร้เรทติ้งทั้งหมด ส่วนน้อยเท่านั้นที่อาจจะไม่ได้ดั่งใจของสถานี
"เป่าจินจง" ย้ายมาอยู่ช่อง 3 ไม่ต่ำกว่า 2-3 ปี แต่ผลงานที่ออกสู่สายตา "คอละคร" กลับน้อยมาก เมื่อเทียบกับผู้จัดฯ "ขาประจํา" ที่ผูกขาดอยู่ในสถานี
ผู้จัดฯ เหล่านี้มีละครออกอากาศแทบจะเรื่องเว้นเรื่อง...หรือไม่ก็หมุนเวียนกันอยู่แค่ไม่กี่เจ้า ผู้จัดฯ เจ้าหนึ่งกระซิบข้างหูว่า เป็น "ขาใหญ่" ที่มีอิทธิพลต่อสถานี และดาราระดับแม่เหล็ก
ปัจจุบัน ละครที่เรียกว่า "คุณภาพ" แทบจะสูญพันธ์ุไปจากจอ ทุกช่องต่างเน้นละครตบ-จูบ ไม่เว้นแม้แต่ "ช่อง 3" ซึ่งถือเป็นสถานีระดับคนเมือง แต่ก็ลงไปคลุกอยู่กับละครบ้านๆ แบบไม่ลืมหูลืมตา
ไม่ใช่เรื่องผิด ที่สถานีจะอัดละครแบบนั้นลงจอ เพื่อหวังเรทติ้ง และเม็ดเงินโฆษณา แต่ก็ไม่ใช่ว่าละคร "คุณภาพ" จะขายไม่ได้ ละคร "เป่าจินจง" ที่ผมยกมาเป็นตัวอย่างข้างต้น สะท้อนให้เห็นว่า เรทติ้งก็ไม่ได้แพ้ละครสไตล์เอามันส์แต่อย่างใด
ผมไม่อยากเห็น "เป่าจินจง" ต้องกลายเป็นผู้จัดประเภท บัวแล้งน้ำ ทั้งๆ ที่ฝีมือการทําละครอยู่ในระดับ "เจ๋ง" เมื่อช่อง 3 ให้ "โอกาส" ก็จะต้องให้โอกาสตลอด และต้องสนับสนุนเต็มที่ ทั้งงบประมาณ และดารา
"มงกุฎแสงจันทร์" ละคร "เป่าจินจง" ซึ่งเป็นผลงานล่าสุดที่ทํากับช่อง 3 แม้กระแสจะไม่ค่อยดีนัก แต่ "เป่าจินจง" ก็ยังรักษาแนวทางของตัวเองเอาไว้"มงกุฎแสงจันทร์" ไม่ใช่แค่ละครที่ดูตื่นเต้น-สนุก ผ่านมาก็ผ่านไป แต่ยังเป็นละครที่ปลุกคนไทยให้รักษาสถาบันเอาไว้อย่างเหนียวแน่น
แม้ "แอนดริว เกร็กสัน" จะรับบทเด่นในละครเรื่องนี้ แต่ดาราคนอื่นๆ ที่ร่วมแสดงยังขาดเสน่ห์ ซึ่งถ้าได้ "แอน ทองประสม" มาประกบ แทนที่จะเป็น "ศรีริต้า" เชื่อว่า จะ "โดน" มากกว่านี้
ล่าสุด "เป่าจินจง" นําเรื่อง "เคหาสน์สีแดง" มาปัดฝุ่นทําใหม่ ซึ่งก็ได้ "แอนดริว" เจ้าเก่ารับบทเป็นพระเอก แต่นางเอกแทบจะไม่ค่อยมีคนรู้จัก แม้จะผ่านการแสดงมาแล้ว แต่ยังถือว่า "หน้าใหม่" มาก
ละครมี 14-16 ตอนกว่าจะจบเรื่อง แต่มีดาราที่อยู่ในระดับเกรดเอ.เล่นอยู่คนเดียว นอกนั้นระดับซี-ดี ถือว่าสุ่มเสี่ยงต่อการเรียกเรทติ้งได้เหมือนกันผมคนหนึ่งล่ะที่ไม่เชื่อว่า "ละครคุณภาพ" จะขายไม่ได้ เพียงแต่ "ช่อง 3" จะต้องเติมในสิ่งที่ขาด ให้กับ "เป่าจินจง" ไม่ใช่ขอคิวดาราชื่อดังๆ แต่ถูก เตะสกัดขาหมด "โอกาส" ที่ให้ บางครั้งก็เป็นการ "ทําลาย" เช่นกัน! ♦