"ฟิล์ม-แอนนี่"เรื่องของคน2คน

       กับ "แอนนี่ บรู๊ค" ซึ่งกระแสข่าวบอกว่ามีความสัมพันธ์กันจนมีลูกชายวัย 3 เดือน กําลังน่ารัก น่าชังทีเดียว

เรื่องแบบนี้ถ้าเกิดกับคนธรรมดา หาเช้า-กินค่ำ คงไม่เป็น "ข่าวดัง" แต่เกิดกับดาราระดับซูเปอร์สตาร์อย่าง "ฟิล์ม-รัฐภูมิ" และ "แอนนี่" ซึ่งเป็นดาราด้วยกัน ยังไงก็ต้องเป็นข่าวอยู่ดี

ประเด็นที่เป็นปัญหาจนทําให้เรื่องบานปลาย เท่าที่ผมจับความ ได้มีอยู่ 2 ประเด็น

ประเด็นแรก "ฟิล์ม-รัฐภูมิ" ไม่ยอมรับว่า ลูกที่เกิดกับ "แอนนี่" เป็นลูกชายของตัวเองหรือไม่ จึงออกมาพูดต่อหน้าสาธารณะ พร้อมที่จะพิสูจน์ด้วยการตรวจดีเอ็นเอ ถ้า "ใช่" ก็พร้อมรับอย่างลูกผู้ชาย

ประเด็นที่สอง "แอนนี่" ยืนยันผ่านสื่อเหมือนกันว่า จะไม่ตรวจดีเอ็นเอเด็ดขาด แต่ก็พูดในทํานองว่า เด็กคนนี้เป็นลูก "ฟิล์ม" แน่นอน

เมื่อคนหนึ่งต้องการตรวจดีเอ็นเอ แต่อีกคนไม่ต้องการ ตรวจ เรื่องเลยคาราคาซัง ทําท่าว่าจะเป็นหนังเรื่องยาว ที่คนดูยังนึกไม่ออกเหมือนกันว่าจะจบยังไง?

เอาเถอะ!! จะใช่-ไม่ใช่ลูก "ฟิล์ม" เรื่องนี้ถือว่าเป็นปัญหาของคน 2 คน ที่จะหาทางแก้ ตราบใดที่ "ปัญหา" มีให้แก้ สักวันคงพบ "ทางออก"

ผมเห็นใจและเข้าใจทั้งหญิง-ชาย เท่าที่ผมรู้จัก "ฟิล์ม-รัฐภูมิ" เขาเป็นดาราที่มีความรับผิดชอบ ไม่หนีปัญหา และพร้อมจะรับ "ความจริง" ถ้าความจริงนั้นผ่านการพิสูจน์ตามกระบวนการที่สังคมยอมรับ ไม่ใช่ความจริงที่เกิดจากกระแสปาก!!

สมมติว่า "ฟิล์ม-รัฐภูมิ" ยอมรับทั้งๆ ที่ไม่มีการพิสูจน์ว่า "ใช่" มันก็เหมือนกับตกนรก  ทั้งเป็น การแสดงความเป็น "พ่อ" เพื่อให้กระแสจบ คิดหรือว่าจะเป็น "พ่อ" ได้ 100%

ในเมื่อยังมีปัญหาค้างใจอยู่ เรื่องแบบนี้มันไม่ตกตะกอนง่ายๆ หรอกครับ จะให้เหมือนกับกวนน้ำขุ่น รอแค่ประเดี๋ยวประด๋าวก็ตกตะกอน..คงไม่ได้ แต่มันจะเป็นภาพหลอนไปตลอดชีวิต เด็กคนหนึ่งที่เกิดมา สมควรจะรู้ความจริงว่า พ่อของเขาคือใคร? ไม่ควรจะปล่อยให้อึมครึมอยู่แบบนี้

เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ผมไปเที่ยวจีนกับบริษัททัวร์ของ "ฟิล์ม-รัฐภูมิ" ซึ่งเจ้าตัวลงทุนเดินทางไปดูแลเอง

ใครจะมอง "ฟิล์ม-รัฐภูมิ" เป็นยังไง คงห้ามความคิดไม่ได้ แต่ผมมองว่าเด็กคนนี้มีวุฒิภาวะสูง ในเรื่อง "ความรับผิดชอบ" เป็นธรรมดา เมื่อไปบ้านอื่นเมืองอื่น ทุกคนจะต้องตื่นตั้งแต่ไก่โห่ตามโปรแกรมที่บริษัททัวร์จัดตารางเอาไว้ "ฟิล์ม-รัฐภูมิ" ไม่เคยใช้ความเป็นเจ้าของ หรือการเป็นดาราชื่อดังเอาเปรียบพนักงาน เขาตื่นพร้อมกับทุกคน ทั้งๆ ที่ธรรมชาติของดารา ถ้าไม่มีคิวละคร ไม่มีภารกิจอะไร ถ้าตะวันไม่ตั้งตรงหัว ไม่มีทางตื่นเด็ดขาด ไม่ว่าจะไปไหน-มาไหน "ฟิล์ม-รัฐภูมิ" เกาะติดอยู่ตลอดฝนตก แดดออก ก็ไม่เคยทําตัวสําอาง เรียกหาครีมกันแดด เรียกหาร่ม แม้จะเป็นช่วงสั้นๆ ที่ได้สัมผัสตัวตน "ฟิล์ม-รัฐภูมิ" แต่ก็น่าจะสะท้อนให้เห็นว่า เขาไม่ใช่คน "หนีปัญหา"

ผมสะดุดกับคําพูดของ "คุณระเบียบรัตน์ พงษ์พานิช" ซึ่งตําแหน่งแห่งหนของท่านคือ "นายกสมาคมเสริมสร้างครอบครัวให้อบอุ่นและเป็นสุข" ที่ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ "เรื่องเล่าเช้านี้" ของ "สรยุทธ สุทัศนะจินดา" เมื่อสัปดาห์ก่อน คุณระเบียบรัตน์ พูดประโยคหนึ่งว่า "แอนนี่ไม่จําเป็นต้องพาลูกไปตรวจดีเอ็นเอ เด็กไม่ต้องคลางแคลงใจ เพราะพ่อของเขาชื่อฟิล์ม ให้จําจนถึงวันตาย"

กรณี "ฟิล์ม-แอนนี่" ในตอนนี้ เปรียบไปแล้วไม่ต่างจากกองเพลิง แทนที่ผู้ใหญ่จะช่วยดับ ด้วยการชักฟืนออกจากไฟ แต่กลับใส่ฟืนโหมเข้าไปอีก

เรื่องของคน 2 คน เลยกลายเป็นเรื่องของคนหลายคน ที่ต่างก็พิพากษาไปคนละทิศละทาง!! สังคมบ้านเราทุกวันนี้ ที่มันสับสนวุ่นวาย เพราะคนเราเอาความ "รู้สึก" มาตัดสินคน ไม่ได้ตัดสินจาก "ความจริง" เธอดี เขาดี เธอร้าย เขาร้าย เธอโกหก เขาโกหก แล้วใครกันที่จะรู้ว่า ใครเป็นอย่างไรกันแน่? แล้วเราแน่ใจล่ะหรือ ว่าตัวเรามีความยุติธรรมพอเพียงกับ

การพิพากษาใคร? เราแน่ใจล่ะหรือ ว่าเราสามารถชําระล้างความสะอาดของคนอื่นๆ ได้ ยิ่งเรื่องของคน 2 คน "ฟิล์ม-แอนนี่" มีความสัมพันธ์กัน ใครจะไปรู้ดีกว่า 2 คนนี้?

พวกเราคนนอก อย่าไปจุ้นเขา!! ♦