ผมเองไม่ใช่ "แฟนละคร" ที่ติดงอมแงม แต่เป็นประเภทมีเวลาก็ดู ไม่มีเวลาก็ไม่ดู แต่คราวนี้ต้องเชื่อแล้วล่ะว่า "วนิดา" ละคร ที่ออนแอร์ทางช่อง 3 ทุกวันจันทร์-อังคาร หลังข่าว เขามาแรงจริงๆ ยิ่งได้ "ติ๊ก-เจษฎาภรณ์ ผลดี" มาเล่นเป็นพันตรีประจักษ์ บรรดาสาวๆ ทุกตรอกซอกซอย หายใจเข้า-ออกเป็นพันตรีประจักษ์แทบทั้งนั้น ขณะที่หนุ่มๆ ต่างก็เคลิ้มกับความน่ารัก น่าหยิกของ "วนิดา" ที่เล่นได้คิกขุ แต่ก็สามารถใช้ความดีเอาชนะใจของชายชาติทหารอย่าง พันตรีประจักษ์ได้
ว่าไปแล้ว คนที่ดู "วนิดา" รู้แจ้งแทงทะลุหมดว่า ละครจะเดินเรื่องแบบไหน-ตอนไหน วนิดากับพันตรีประจักษ์จะอินเลิฟ ช็อตหน้า "พิสมัย" จะต้องน้ำตาเช็ดหัวเข่า แม่นยังกับจับวาง เดาถูกเป๊ะ แต่คนก็เฝ้าหน้าจอตลอด
ใครจะว่าละครไทยน้ำเน่า ไร้สาระ ก็ช่างหัวเขา แต่ "ละคร" ก็มีเสน่ห์ของมันอยู่ในตัว ถ้าผู้จัดทําถึง มือถึง ยกตัวอย่าง "วนิดา" ไม่รู้ว่าทํามากี่เวอร์ชั่น ที่ผ่านมาก็งั้นๆ แต่พอมาถึง "วนิดา" เวอร์ชั่นนี้ กลับ "โช๊ะ" อย่างไม่น่าเชื่อ
ปัจจุบันคนไทยเครียดหลายอย่าง ทั้งเรื่องเศรษฐกิจ การเมือง แถมยังมีระเบิดตู้มตรงนั้นที ตรงนี้ที แต่มี "ละคร" นี่แหละ ที่พอเป็น "สุข" ราคาถูกของคนไทย
ละครที่เคยสร้างปรากฏการณ์แบบปากต่อปาก ประมาณว่า ถ้าใครไม่ได้ดูจะเชยบรม นอกจาก "วนิดา" ในอดีตมีอยู่หลายเรื่อง ถึงขั้น ที่เรียกว่า "ตํานาน" ก็ว่าได้
"คู่กรรม" เป็นละครอีกเรื่องที่ฮอตที่สุด เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว โดยเฉพาะในเวอร์ชั่นที่ "เบิร์ด-ธงไชย แมคอินไตย์" เล่นคู่กับ "กวาง-กมลชนก" ทางช่อง 7 สี เรียกว่าคนคลั่งกันทั้งประเทศ แม้ว่า "เรดดราม่า" จะนํามาสร้างอีกครั้ง ให้ "หนุ่ม-ศรราม" เล่นคู่ "เบนซ์-พรชิตา" ทางช่อง 3 เรทติ้งก็ไม่ตก
ว่าไปแล้ว "คู่กรรม" เป็นละครอมตะนิรันดร์กาลของวงการละครบ้านเรา ที่ถูกนํามาสร้างเป็นหนัง-ละคร และละครเวทีมากที่สุด ฮอตไม่ฮอตก็มี "คู่กรรม" ภาค 2 มาแล้ว
ยุคแรก "คู่กรรม" สร้างเป็นละครที่ช่อง 4 บางขุนพรหม เมื่อ 40 ปีที่แล้ว ตอนนั้น "มีชัย วีระไวทยะ" เจ้าของ "ถุงยางมีชัย" คนนี้แหละ เล่นเป็นโกโบริ โดยมี บุศรา นฤมิตร เล่นเป็น อังศุมาลิน
ประสาเด็กหนุ่มรุ่นกะทงอย่างผม ไม่ได้ดูหรอกครับ แต่จําขี้ปากคนสมัยก่อนเขาเล่ามา บอกว่า "คู่กรรม" ยุคนั้นดังไม่แพ้คู่กรรมยุคหลังๆ พอจะจําได้ก็ตอนที่ "เบิร์ด-ธงไชย" เล่นคู่กับ "กวาง-กมลชนก" และเวอร์ชั่น "หนุ่ม-ศรราม" เล่นคู่ "เบนซ์-พรชิตา" เพราะผ่านตาอยู่บ้าง
ฉากจบซึ่งจําได้ว่าถ่ายแถวสถานีรถไฟบางกอกน้อย มีระเบิดลงตูมตาม เพราะเป็นช่วงสงครามโลก โกโบริประคองกอดพาอังศุมาลินหลบระเบิด โดยเอาตัวเองเป็นเกราะกําบังไปหลบอยู่แถวท้องร่อง จนตัวเองต้องจบชีวิตลง เชื่อมั้ยครับ วันนั้นถนนโล่ง ไม่ต่างจากไฟท์ "เขาทราย แกแลคซี่" ขึ้นชก แม้แต่คนขับรถเมล์ยังห้อตะบึงรีบกลับอู่ เพราะกลัวพลาด "คู่กรรม"
"ดาวพระศุกร์" เป็นละครอีกเรื่องที่มีมนต์ขลัง สามารถเรียกคนดูเฝ้าหน้าจอไม่ต่างจาก "คู่กรรม" เป็นละครที่ผู้จัดนํามาสร้างซ้ำ แล้วซ้ำเล่า ใครที่เป็นแฟนละครช่อง 7 สี คงจําได้ดี เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ตอนนั้น "มนฤดี ยมาภัย" ยังเป็นนางเอกหมายเลข 1 ของสถานี เล่นคู่กับ "พล พลากร" ต่อมาช่อง 7 สี นํามาสร้างอีกครั้ง คราวนี้ได้ "กบ-สุวนันท์" ประกบ "หนุ่ม-ศรราม"
ทั้ง "กบ-หนุ่ม" เพิ่งแตกเนื้อสาว เนื้อหนุ่ม หน้าตาดีด้วยกันทั้งคู่ เมื่อโคจรมาเจอกัน "ดาวพระศุกร์" เลยกลายเป็นละครแชมป์ประเทศ แจ้งเกิด "กบ-สุวนันท์" และ "หนุ่ม-ศรราม" จนถึงบัดนี้ โดยเฉพาะ "กบ-สุวนันท์" ถ้าใครพูดถึงเธอ มักจะมีละคร "ดาวพระศุกร์" เข้ามาเอี่ยว กลายเป็นโลโก้ ที่คนยังระลึกถึงอยู่เสมอ ยิ่งเมื่อใดที่ดาวพระศุกร์ถูกจิกหัวด่า สามารถเรียกน้ำตาจากคนดูได้เป็นปี๊บๆ ว่ากันว่าตอนนั้น ถ้าใครไม่ดู "ดาวพระศุกร์" จะกลายเป็นคนตกยุคไปเลย
ละครอีกเรื่องที่สามารถสร้างปรากฏการณ์ให้กับคอละครได้อย่างไม่น่าเชื่อคือ "แดจังกึม" อย่าหาว่าผมเห็นละครเกาหลี ดีกว่าละครบ้านเราเลยครับ แต่พูดไปตามเนื้อผ้า
ช่วงที่ "แดจังกึม" เข้ามาฉาย ตอนนั้นคนไทยยังไม่คลั่งถึงขั้น "เกาหลีฟีเวอร์" เหมือนตอนนี้ แต่ "แดจังกึม" เป็นละครที่จุดประกายให้คนไทยได้ต่อติดกับวัฒนธรรมเกาหลีอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ "แดจังกึม" เป็นละครเย็น ฉายแค่เสาร์-อาทิตย์ เวลา 6 โมงเย็นถึง 2 ทุ่ม แต่เรทติ้งชนะ "ละครหลังข่าว" เฉยเลย เป็นปรากฏการณ์แรกที่ละครเย็นโค่นละครกลางคืนได้
แม้แต่โรงถ่ายละคร ปัจจุบันกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวสําคัญของเกาหลี ใครที่เคยไปเที่ยวเกาหลีรู้ดี เพราะหนึ่งในโปรแกรมทัวร์ จะต้องมีสถานที่นี้บรรจุอยู่ยันเต
ปรากฏการณ์ละครที่ผมนํามาเล่าสู่กันฟังวันนี้ วัดจากความรู้สึกของผมเอง ไม่มีมาตรฐานอะไรหรอกครับ เพียงแต่หาเรื่องเบาๆ มาเล่าให้ผู้อ่านหายเครียดจากข่าว "ขาประจํา" เท่านั้นเอง!! ♦