นักแสดงหนุ่มน้อยดาวรุ่งที่กลายเป็นขวัญใจสาวน้อยสาวใหญ่ไปทั่วประเทศ
ภายหลังจากตัดสินใจเซ็นสัญญากับค่ายโพลีพลัส ก็มีทั้งงานหนัง-ละคร และอีเว้นท์วิ่งชนจ้าละหวั่น ว่ากันว่าภายในระยะเวลาแค่เพียง 6 เดือน หนุ่มน้อย เก้า-จิรายุ มีเงินเก็บสะสมไม่ต่ำกว่า 10 ล้านแล้วด้วย ตอนนี้ "เก้า" มีงานละครกับค่ายโพลีพลัสเรื่อง "คู่แค้นแสนรัก" ที่ขณะนี้กําลังเร่งถ่ายทำ หากไม่มีอะไรผิดพลาดน่าจะได้ชมกันช่วงปลายปี
ส่วนทางด้านจอเงิน "เก้า" แจ้งเกิดเต็มตัวจากภาพยนตร์ "5 แพร่ง" ล่าสุดกําลังมีผลงานกับค่ายจีทีเอช เป็นภาพยนตร์เกี่ยวกับวัยรุ่นและกําลังเร่งถ่ายทําอยู่ขณะนี้ คาดว่าคงจะได้ชมกันปีหน้า โดยค่าเหนื่อยหนนี้สูงกว่าภาพยนตร์เรื่องแรก เพราะทั้งความแรงและกระแสนิยมของ "เก้า" ที่พุ่งพรวดติดลมบนแบบฉุดไม่อยู่
ส่วนภาพยนตร์อีกเรื่องจากค่าย "M๓๙" ที่คุยกันถูกคอและกะจะปั้นให้ "เก้า" แจ้งเกิดเป็นพระเอกเต็มตัว คว้ามาแสดงนำในภาพยนตร์แนววัยรุ่นใสๆ ซึ่งปิดกล้องไปเรียบร้อยแล้ว พร้อมจะเข้าฉายในปีหน้า คาดว่าภาพยนตร์ทั้ง 2 เรื่องเมื่อนําออกฉายน่าจะได้รับการตอบรับที่ดีทีเดียว
ละคร 1 เรื่อง และหนัง 2 เรื่อง ไม่นับรวมงานอีเว้นท์ แฟชั่นโชว์ หลายๆ งานที่งานไหนหากไม่มี "เก้า" ถือว่าเชยมากๆ และยังไม่รวมค่าตัวจากงานโฆษณา 2 ชิ้น "เซียงไฮ้" และรถจักรยานยนต์ "ยามาฮ่า" ที่สนนราคารวมกันก็ไม่ต่ำกว่า 2 ล้านบาท โดย "ยามาฮ่า" ต้นปีหน้าเขาจะมีโฆษณาเวอร์ชั่นเต็มๆ ให้ได้เห็นกัน
แถมนอกจากนี้ ยังหาค่าเทอมได้เป็นกอบเป็นกําจากค่าตัวงานเดินแฟชั่นโชว์ 1 ชุดต่องาน ก็ตกค่าตัวอยู่ประมาณ 25,000-30,000 บาท ซึ่งภายใน 1 อาทิตย์ งานจ้างก็จะมีชื่อ "เก้า" 1-2 เป็นอย่างต่ำ
ซึ่งถ้าหากเป็นการออกงานจ้างราคาจะอยู่ที่งานละ 50,000 บาทขาดตัว แต่ถ้างานไหนที่ต้องมีการพูดชื่อสินค้าหรือจับต้องสินค้า ก็ต้องมีการเพิ่มค่าจ้างกันอีกเท่าตัว
นี่ถือเป็นการฉลองวันเกิดครบ 15 ปี ที่คุ้มค่ากับชีวิตมากๆ เพราะอายุแค่นี้ก็ทําเงินให้พ่อแม่มหาศาล ถือเป็นอภิชาตบุตรโดยแท้
โดยผู้สื่อข่าว "ดาราเดลี่" ได้สอบถามกับทางคุณแม่วรนุช ละอองมณี ในงานฉลองวันเกิดครบอายุ 15 ปีที่หน้าโรงภาพยนตร์โนเกีย เล้าจ์ สยามพารากอน
"ถ้าเป็นตามข่าวก็ถือว่าน่าดีใจนะ เพราะแม่กับน้องกว่าจะมีวันนี้ทํางานกันมาเหนื่อยมากๆ ถือเป็นของขวัญชิ้นสําคัญที่มอบให้ตัวเองละกัน ซึ่งเมื่อเขาทํางานเหนื่อยก็ย่อมได้รับค่าตอบแทนที่ น่าจะคุ้มค่าสําหรับตัวเอง ซึ่ง ณ วันนี้ทุกคนให้โอกาสน้อง ทุกคนจ้างงานน้อง เห็นความสําคัญ เห็นว่าเป็นคนที่อยู่ในกระแสนิยม ก็น่าดีใจแทน
และคิดว่าผลงานทุกอย่างที่เกิดขึ้นตอนนี้ หรือในอนาคตก็น่าจะเป็นการการันตีให้ได้ว่า น้องน่าจะเป็นคนที่ยังมีคนสนใจอยู่" ♦