"ผู้ประกาศข่าว"กับความภูมิใจของ"7สี"

"ผู้ประกาศข่าว"กับความภูมิใจของ"7สี"

1

       แต่รายการที่ทําเงินให้สถานีมากที่สุดคือ "ละคร" รองลงมาคือ "รายการข่าว" ถัดไปจึงเป็น "วาไรตี้-เกมโชว์"

"ภาคละคร" และ "ภาคข่าว" สถานีโทรทัศน์จึงต้องลงทุนผลิตเอง ขายโฆษณาเอง และเป็นคนกําหนดราคาขายเอง ส่วนวาไรตี้-เกมโชว์ ส่วนใหญ่สถานีจะปล่อยเช่าเวลา ให้ผู้ผลิตต่างๆ ลงทุน และผลิตภายใต้การกําหนดของสถานี

รายการข่าวหัวใจจริงๆ ก็คือ "เนื้อหาข่าว" แต่เนื้อหาข่าวของแต่ละสถานีจะเหมือนๆ กันหมด เพราะมาจากแหล่งเดียวกัน

ถ้า "หัวใจข่าว" มี 4 ห้อง 2 ห้องน่าจะมาจาก "ผู้ประกาศข่าว" หรือผู้อ่านข่าว ขณะดูข่าวทีวีในแต่ละครั้ง ถ้ามีผู้อ่านข่าวที่ถูกใจ หรือลีลาการอ่านดี ก็จะเปิดแช่ที่ช่องนั้น

 


จึงไม่แปลกที่จะได้เห็น-ได้ยิน ผู้ประกาศข่าวที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักของ "คอข่าว" ย้ายจากช่องนี้ไปช่องนั้น บางคนมีเงินกินเปล่าจ่ายให้เป็นตัวเลขหลายล้าน ประมาณว่าให้ค่าขนมไปก่อนฟรีๆ ยังไม่นับเงินเดือน-เบี้ยเลี้ยง ที่ได้ในแต่ละครั้ง

ปัจจุบัน "ผู้อ่านข่าว" ที่มีชื่อเสียง ได้รับความนิยมจึงไม่ต่างจาก "ดารา" ดีๆ นี่เอง บางคนมีแฟนคลับ มีรายได้มากกว่าดาราด้วยซ้ำไป

"ช่อง 7 สี" เป็นสถานีเดียวที่ไม่ชอบเด็ดดอกไม้ในอุทยานคนอื่น ประมาณว่าดูดคนข่าวจากช่องนั้น ช่องนี้มาอยู่กับสถานี ด้วยการใช้ "เงินซื้อ" แต่ช่อง 7 สี จะ "ปั้นเด็ก" ของตัวเองขึ้น  มาทดแทนผู้ประกาศข่าวรุ่นเก่าที่ทยอยปลดระวาง ไม่ใช่ว่า "ช่อง 7 สี" ไม่มีเงินที่จะทําอย่างนั้น มีมากเสียด้วย แต่ไม่เลือกปฏิบัติ เพราะถ้าทําแบบนั้น เท่ากับเอาเปรียบสถานี ช่องอื่น ซึ่งกว่าจะปั้นผู้ประกาศข่าวแต่ละคนให้มีชื่อได้ ไม่ใช่ว่าวัน 2 วัน แต่เป็นปี หรือหลายปี

 


ถ้านับยุค ศันสนีย์ นาคพงศ์, จักรพันธุ์ ยมจินดา เป็นเจนเนอเรชั่นแรกของผู้ประกาศ  ข่าวช่อง 7 สี ที่สร้างเรทติ้งให้กับ "รายการข่าว" จนมีกระแสนิยม ครองอันดับ 1 มาอย่างต่อเนื่องหมดยุค "ศันสนีย์-จักรพันธุ์" ก็เข้าสู่ช่วง
 ศุภรัตน์ นาคบุญนํา, ศศินา วิมุตตานนท์, พิษณุ นิลกลัด, พิสิทธิ์ กิรติการกุล, จรณชัย ศัลยพงษ์, อินทิรา นาทองบ่อ, อัญชะลี ไพลีรัก

ผู้ประกาศข่าวยุคนี้ ส่วนใหญ่ยังอยู่กับช่อง บางคนออกไปอยู่ช่องอื่น อย่าง อินทิรา นาทองบ่อ ไปอยู่กับช่อง 3 อัญชะลี ไปเป็นผู้ประกาศข่าวช่องเอเอสทีวี ส่วนจรณชัย วางมือจากการเป็นผู้ประกาศข่าว

ในช่วงปลายของยุคนี้จะมีผู้ประกาศข่าวดีกรีนางสาวไทยอย่าง "หมอเบิร์ด-อภิสมัย ศรีรังสรรค์" มาแจมกับผู้ประกาศข่าวที่มีอยู่เดิม ในข่าวภาคค่ำ

"หมอเบิร์ด-อภิสมัย" สามารถเรียกเรทติ้งให้กับรายการข่าวได้แยะ เพราะเป็นสถานีแรก และครั้งแรกที่คนสวยระดับนางงามประเทศ มาทําหน้าที่ผู้ประกาศข่าว

เสียดายที่ "หมอเบิร์ด-อภิสมัย" ไม่มีเวลาให้ ต้องไปทําหน้าที่หมอ กระทั่งหายไปจากจอ แต่ช่อง 7 สีก็ไม่ขาดผู้ประกาศข่าวคุณภาพ

 


เพราะมีการ "สืบทอด" รุ่นแล้วรุ่นเล่า โดยเฉพาะโครงการเฟ้นหาผู้ประกาศข่าวหน้าใหม่ ที่สามารถเจียระไนเพชรเม็ดงามเข้าสู่วงการได้ต่อเนื่อง

รุ่นแรกที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดี มี ไก่-ภาษิต, ศรีสุภางค์ ธรรมาวุธ, เหมือนฝัน ประสานพานิช ตอนนี้ ไก่-ภาษิต ย้ายไปช่อง 3 แต่ ศรีสุภางค์ และเหมือนฝัน ยังอยู่ แถมเป็น "ดาวเด่น" ที่สามารถจะทดแทนผู้ประกาศข่าวรุ่นเก่าได้อย่างลงตัว

"ศรีสุภางค์" ถือว่ามีคุณสมบัติครบ ทั้งการศึกษาและหน้าตา จบเนติบัณฑิตไทย หน้าตาจิ้มลิ้มสวยกว่าดาราหลายๆ คน อ่านข่าวดีน่าติดตาม

ส่วน "เหมือนฝัน" คนนี้มีดีกรีระดับเชียร์ลีดเดอร์มหาวิทยาลัยเรื่องความสวยจึงไม่ห่วง ลีลาอ่านข่าวออกทั้งสีหน้า-แววตา เหมือนกับว่าคนดูอยู่ในเหตุกาณ์

ผู้อ่านข่าวคุณภาพ โดยเฉพาะรุ่นหลังๆ มีหลายคน ที่เห็นอยู่หน้าจอมี กนกวรรณ ทองเกตุ, จีรนันท์ เขตพงศ์, ช่อฟ้า เกตุเรือง-โรจน์, ศิริกุล อัตถปัญญาพล, ชัยอนันต์ ปันชู และอีกหลายคนทุกคนล้วนแต่ก้าวมาจากโครงการผู้ประกาศข่าวหน้าใหม่ทั้งสิ้น

 


มีแค่ไม่กี่คนที่มาจากที่อื่น อาทิ ภัทร จึงกานต์กุล, นารากร ติยายน แต่จะว่ามาจาก "ที่อื่น" ก็ไม่เชิงนัก เนื่องจากทั้งคู่เป็นคนของมีเดีย ออฟ มีเดียส์ บริษัทในเครือ 7 สี ก่อนจะโยกมาอ่านข่าวภาคค่ำ

อยากให้สถานีโทรทัศน์ช่องอื่นดู 7 สี เป็นตัวอย่างในการสร้างผู้ประกาศข่าว สร้างคนของตัวเองขึ้นมา ไม่ใช่เอะอะ "ซื้อตัว" อย่างเดียวแบบนั้นมันน่าภูมิใจตรงไหน?

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Gallery ที่เกี่ยวข้อง

Comments