ทําไม"แพนเค้ก"ถึงเป็นลูกรัก7สี

ทําไม"แพนเค้ก"ถึงเป็นลูกรัก7สี

1

       แต่ดูที่ทักษะ-ความสามารถเป็นหลัก เมื่อรายได้หลักของ"ธุรกิจสื่อทีวี" มาจาก "ละคร" ดาราคนไหนที่มีความสามารถด้านการแสดง ย่อมจะได้รับ "โอกาส" กับงานมากกว่าคนอื่น

ดาราที่ได้ชื่อว่าเป็นพระเอก-นางเอก ก็เหมือนกองหน้าทีมฟุตบอล ที่ได้รับโอกาสให้ลงเล่นเป็นตัวจริง แล้วยิงประตูได้ทุกนัด ก็ต้องถูกผู้จัดการทีมจับลงสนามบ่อยครั้ง แต่นักเตะประเภทหมูสนามจริง สิงห์สนามซ้อม เก่งแต่ปากยะโส วางกล้าม คงไม่มีผู้จัดการคนไหนบ้าพอจะเอาลงสนาม ทั้งๆ ที่รู้อนาคตดีว่า ลงไปแล้วแพ้แหงๆ

"แพนเค้ก-เขมนิจ จามิกรณ์" คือหนึ่งในดาราแถวหน้าของ "ช่อง 7 สี" ที่มีโอกาสเล่นละครบ่อยครั้ง จนหลายคนอิจฉา หาว่าสถานีลําเอียง หายใจเข้า-ออกเป็น "แพนเค้ก" ยันเต

อย่าไปอิจฉา "แพนเค้ก" เลยครับ ถ้าไม่ดีจริง เจ๋งจริง ฝีมือการทําละครระดับเกจิเรียกพี่อย่าง "คุณแดง-สุรางค์ เปรมปรีดิ์" ไม่มีทาง  ที่จะยอมใครง่ายๆ

"แพนเค้ก" ก้าวมาจากเวทีประกวดนางแบบไทยซูเปอร์โมเดล ก่อนจะได้ตําแหน่ง "นางแบบโลก" แล้วจึงเข้ามาเป็นนักแสดง ไม่ต่างจากเส้นทางของดาราส่วนใหญ่ในบ้านเราที่ "เริ่มต้น" จากเวทีประกวด แล้วเข้ามาเป็น "ดารา" เพียงแต่ว่า "ทางเดิน" และ "ทางไป" ไม่เหมือนกันแน่นอนขึ้นอยู่กับพัฒนาการของแต่ละคน บางคนแค่แว่บ ได้เล่นละครเรื่อง2 เรื่อง หลงตัวเองว่าเป็นนักแสดงระดับซูเปอร์สตาร์ ทั้งๆ ที่ฝีมือก็งั้นๆ สุดท้ายก็ตายก่อนโต

เส้นทาง "นางแบบ" แล้วเข้ามาเป็น "ดารา" ใช่ว่าจะมี "แพนเค้ก" คนเดียว มีเยอะแยะ แต่ส่วนใหญ่ไปไม่ถึงดวงดาว สุดแล้วแต่เหตุผลและปัจจัยแวดล้อมของคนๆ นั้น เส้นทางนี้จึงไม่ใช่ "สูตรสําเร็จ" ที่  ทําให้ทุกคนเดินไปสู่เป้าหมายได้เหมือนกันหมด ไม่ยังงั้น วงการบันเทิงบ้านเราคงมี "แพนเค้ก" ล้น จนทะลุจอ เพราะปัจจัยชี้ขาด ใคร? จะประสบความสําเร็จ-ล้มเหลว ไม่ใช่มาจาก "จุดเริ่ม" เหมือนกัน แต่ขึ้นอยู่กับ "พัฒนาการ" ใครเหนือใครต่างหาก!

"แพนเค้ก" เป็นดาราที่มีพัฒนาการดีอย่างต่อเนื่อง เมื่อเทียบละครในอดีต-ปัจจุบันที่เธอเล่น ตั้งแต่ "สืบ-สาว-ราว-รัก" ละครเรื่องแรกของเธอ กระทั่งล่าสุด "เธอกับเขาและรักของเรา" เห็นได้ชัดว่าเป็นยังงั้นจริงๆ

 


ระยะแรกๆ ก็ลุ้นอยู่ในใจเหมือนกัน เธอจะไปรอดไหมเนี่ย เพราะแต่ละฉาก แต่ละซีน ดูแล้วทื่อๆ ไม่ค่อยจะมีอารมณ์ร่วมกับตัวละครที่เธอรับบทเท่าไหร่? จากปีแรกที่เล่นแค่ละครเรื่องเดียว ปีต่อมาสถานี "เพิ่มโอกาส" ให้เล่น 2 เรื่อง จากนั้นขยับมาปีละ 3-4 เรื่อง เริ่มฉายแววการเป็น นักแสดงที่มีทักษะ มองเห็นความมุ่งมั่น-ตั้งใจในการเป็นนักแสดงที่ดี ไม่ใช่เข้ามาเพื่อ "ชุบตัว" รอวัน เมื่อไหร่ลูกคนรวย-ไฮโซจะเข้ามาจีบ แล้วทิ้งหน้าที่ตัวเอง หลงไปกับเงินทองที่เขาเอามาฟาดหัว สุดท้ายเป็นได้แค่ความสุขชั่วครู่ชั่วยาม เสียทั้งงาน-เสียทั้งตัว

"เธอกับเขาและรักของเรา" ซึ่ง "แพนเค้ก" เล่นคู่กับ "เป้-อารักษ์" เรื่องเรทติ้งไม่ต้องห่วง เห็นทุกบ้านเปิดดูกันให้รึ่ม เท่าที่ผมมีโอกาสได้ดูบางวัน ยอมรับว่า "แพนเค้ก" มีพัฒนาการ   สุดยอด ทั้งมุมกล้อง สีหน้า แววตา ทําได้เยี่ยม เข้าล็อค เข้าจังหวะเป๊ะ เวลาที่หันหน้ามาเจอพระเอก สีหน้าออกหมด ดีใจ-เสียใจ เป็นเรื่องยากสําหรับนักแสดงอีกหลายๆ คนที่จะทําได้แบบนี้

นอกเหนือจากความสามารถด้านการแสดงแล้วเธอยังรู้จักแยกแยะเรื่องงาน-ส่วนตัว ไม่เอามาปะปนกันให้รกสมอง

ดาราทุกคนมีปัญหาส่วนตัวด้วยกันทั้งนั้นยิ่งดาราระดับ "นางเอก" มีใครบ้างจะไม่เคยมีปัญหาเรื่องความรัก จะลุก จะนั่ง ถูกจับตามองตลอด ดาราบางคนทะเลาะกับผัว เช้ามามีงานอีเว้นท์ เวลาเจอสื่อซักเข้าหน่อย ไม่ต่างจากหมาถูกน้ำร้อนลวก แยกเขี้ยวกัดฟันใส่ ไม่แยกแยะอะไรคืองาน อะไรคือปัญหาส่วนตัว ที่คน 2 คนจะต้องแก้ไข ไม่ใช่ "แก้ผ้า" ต่อหน้าสาธารณะให้คนจับไต๋ได้ สัมพันธ์ง่อนแง่นแหงๆ

"แพนเค้ก" ไม่ใช่พระอิฐพระปูนที่ไม่รู้ร้อนรู้หนาว เป็นมนุษย์เหมือนทุกคน มีรัก โลภ โกรธ หลง ยิ่งระยะหลังๆ ข่าวคราวเรื่องรักๆ เลิกๆ กับ "เวียร์-ศุกลวัฒน์" พระเอกร่วมช่องออกมาบ่อยๆ แต่เธอก็ไม่เคยเอาทุกข์ส่วนตัวมาโพนทะนาให้เป็นทุกข์ส่วนรวมประมาณว่า ไม่หยุมหยิมกับเรื่องใหญ่ และไม่ส่องแว่นขยายกับเรื่องย่อย มันไร้สาระและเสียเวลา อะไรคือเรื่อง "ใหญ่-ย่อย"  ทุกคนแยกออกหมด เพียงแต่จะรู้จักคิด รู้จักปฏิบัติหรือไม่?

"ความรัก" เกิดขึ้นได้กับทุกคนและเป็นสิ่งที่ดี แต่ในฐานะดารา นอกจาก จะรักตัวเอง รักครอบครัว ทํายังไงจะให้ "ประชาชนรัก" ด้วยการเอาผลงานเป็นเครื่องพิสูจน์ ตรงนี้ต่างหากที่ "แพนเค้ก" มีโดย  ไม่ต้องเสแสร้ง แกล้งทํา!

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Gallery ที่เกี่ยวข้อง

Comments