แต่ไม่น่าเชื่อว่า "อสมท" วันนี้ จะลงมาเล่น กีฬาสีกับเขาด้วย แปลกแยกออกเป็น "สีดํา-สีม่วง"
เรื่องของเรื่องก็จากการที่สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจบริษัท อสมท จํากัด (มหาชน) นําโดย "คุณอรวรรณ ชูดี" ในฐานะประธานสหภาพฯ โผล่พรวดไปยื่นหนังสือให้นายกรัฐมนตรีถึง ทําเนียบรัฐบาล จนเป็นข่าวเขย่าขวัญผู้บริหารอสมท
หนังสือดังกล่าว ระบุข้อร้องเรียน 3-4 ประเด็น คือ
1.พนักงานมีความกังวลภายใต้การกํากับของนายสุรพล นิติไกรพจน์ ประธานกรรมการ บมจ.อสมท และนายธนวัฒน์ วันสม กรรมการผู้อํานวยการใหญ่ บมจ.อสมท ว่า อาจไม่รักษาผลประโยชน์ของบมจ.อสมท ที่กระทรวงการคลังถือหุ้นอยู่
2. มีการปฏิบัติหน้าที่ไม่โปร่งใส ในการรักษาผลประโยชน์ของ บมจ.อสมท จากการกํากับดูแลคู่สัญญา
3. การบริหารที่ขาดหลักธรรมาภิบาล ความไม่โปร่งใส สร้างความแตกแยกภายในองค์กร โดยมีการล้วงลูกการบริหาร การปรับปรุงโครงสร้างองค์กร แต่ปิดกั้นการมีส่วนร่วมของพนักงาน
4. ขาดประสิทธิภาพเชิงบริหาร กระทบต่ออนาคตขององค์กร โดยมีความล่าช้าในการเตรียมแผนรองรับ พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และพ.ร.บ.ประกอบกิจการฯ ไม่มีความชัดเจนเรื่องแผนงานของธุรกิจใหม่
ถ้านําข้อเรียกร้องของสหภาพฯ มาจัดหมวดหมู่ แบ่งได้ 2 โหมดใหญ่ คือการบริหารงานภายในที่สหภาพฯมองว่าตอนนี้เกิดปัญหาแต่ไม่ได้มีการแก้ไข
โหมดอย่างที่ 2 อสมท ในตอนนี้ ไม่มีแผนอะไรรองรับกับการมาของ พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ ซึ่งจะมาแน่ในเร็วๆ นี้
หลายคนมองการเคลื่อนไหวของสหภาพฯ ข้ามช็อตมากไปหน่อย แทนที่จะนําเรื่องมาพูดกันภายใน 3 ฝ่าย คือ สหภาพฯบอร์ด และผู้บริหาร แต่พุ่งตรงไปร้องนายกรัฐมนตรีถึงทําเนียบรัฐบาลเหมือนกับ "ฉีกหน้า" ผู้บริหารออกเป็นริ้วๆ
แต่ถ้ามองอย่างศึกษา ไม่เอาคําว่า "ถือสา" มาเป็นประเด็น ผมเชื่อว่าเรื่องนี้น่าจะมีการพูดกันในระดับ 3 ฝ่ายมาแล้ว แต่บอร์ด และผู้บริหารคงเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ ไม่ใส่ใจ
เรื่องไม่เป็นเรื่องในมุมมองของผู้บริหาร อสมท เลยกลายเป็นเรื่อง ซึ่งเป็นสิทธิ์โดยชอบของพนักงานที่มีสหภาพฯ เป็น "แกนหลัก" จะออกมาเรียกร้อง ก่อนที่สหภาพฯ จะออกมาเคลื่อนไหวครั้งนี้ ได้ส่งสัญญาณให้ผู้บริหารอสมท หันมามองด้วยความ "ใส่ใจ" กันหน่อย ด้วยการใส่ "เสื้อสีดํา" เป็นทํานองเตือนว่า ตอนนี้พนักงานเริ่มจะไม่พอใจการบริหารของทั่นแล้วนะ
แต่แทนที่ผู้บริหารจะรีบขยับตัว มองสหภาพฯ อย่างเข้าใจว่า การเคลื่อนไหวครั้งนี้เป็นการขยับตัวที่ปรารถนาดีต่อองค์กร ต้องการเห็น อสมท ก้าวเดินไปในทิศทางที่มั่นคงแข็งแรงทั้งปัจจุบันและอนาคต
นอกจากจะไม่สนองตอบต่อข้อเรียกร้อง แม้แต่จะเรียกมาพูดคุยเพื่อแสวงหา "จุดร่วม" ด้วยกัน ยังมีปรากฏการณ์ "เสื้อสีม่วง" เกิดขึ้น เพื่อบ่งบอกว่า "พวกกู-พวกมึง" ไม่เกี่ยวกัน!?
เมื่อคนที่มีหน้าที่แก้ปัญหาไม่ยอมทําหน้าที่ แต่กลับสร้างปัญหาเพิ่ม เมื่อไหร่มันจะเข้าใจกัน มองเห็น "ทางไป" ของ อสมท ในทิศทางเดียวกัน!!
อีกปัญหาที่เพิ่งเกิดสดๆ ร้อนๆ คือ "ผังใหม่" ของโมเดิร์นไนน์ ที่ประกาศล่าสุด ซึ่งมีความพิกลพิการอย่างผิดสังเกต โดยเฉพาะการเซ็นผังเดือนต่อเดือน ไม่เคยเกิดขึ้นกับองค์กรนี้มาก่อน
แม้แต่วันแถลงข่าวผังรายการเมื่อวันที่ 15 กุมภาฯ ที่ผ่านมา ก็ไม่มีผังรายการแจกนักข่าว ผู้จัดรายการก็ไม่รู้ว่ารายการของตัวเองอยู่ดีมีสุขหรือไม่?
ผู้จัดฯ รายหนึ่งเล่าให้ผมฟังว่า ก่อนจะมีการแถลงข่าวผังรายการ ช่อง 9 มีจดหมายยืนยันไปถึงเขาอย่างดิบดีว่า รายการยังอยู่ในผังไม่ตกหล่นไปไหน ในวันที่ 15 กุมภาฯ ซึ่งเป็นวันแถลงข่าว เขาก็ยังมั่นใจว่ารายการยังอยู่ แต่จู่ๆ แทบช็อก เมื่อผังรายการเดือนมีนาคมคลอดออกมา รายการกลับหลุดผังไปเฉยๆ แบบไม่มีเหตุผล!! ที่สําคัญ เขาอัดเทปล่วงหน้าไปถึงเดือนเมษา-พฤษภา ด้วยความมั่นใจว่ายังไงรายการก็ไม่หลุดผัง ซึ่งล้วนแต่เป็น "ต้นทุน" ที่ต้องควักกระเป๋าจ่ายทั้งสิ้น เมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ใครจะรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้นให้เขาล่ะครับ!!
อดีตผังรายการของช่อง 9 ถือว่ามีแนวปฏิบัติที่ได้มาตรฐาน มากกว่าสถานีโทรทัศน์ช่องอื่น นั่นคือ เน้น "ความโปร่งใส" ไม่มีนอก มีใน ที่สําคัญคือ ใครจะอยู่-ใครจะไปเขาจะบอกกันล่วงหน้า เพื่อไม่ให้ผู้จัดฯ ได้รับผลกระทบ ไม่ใช่นึกจะถอดก็ถอด นึกอยากจะยัดรายการไหน ของใคร? ก็ทําตามใจ ใครจะเดือดร้อนช่างมัน ยังงั้นน่ะหรือ!!
ปรากฏการณ์ "อสมท" ในวันนี้ นอกจากจะเกิดเสื้อ 2 สี ยังมีคนกระซิบข้างหูผมว่า...แดนสนธยากําลังจะหวนกลับมา!? ♦