ที่เคยกํากับละครเวทีมาก่อน เมื่อมาทําละครจึงใส่ความพิถีพิถันเข้าไปประมาณว่า ไม่มีหยวนๆ สําหรับเขา
ละครเวทีคือละครที่เล่นกันสดๆ เมื่อพลาดแล้วไม่มีสิทธิ์แก้ตัว ใครที่ผ่านการกํากับละครเวที ถือว่ามี "แต้มต่อ" เหนือกว่าคนที่เข้ามาเรียนรู้การกํากับละครในจอทีวี เพราะละครในจอทีวี เมื่อเกิดการผิดพลาดผู้กํากับยังมีสิทธิ์สั่งคัทแล้วถ่ายใหม่ เพื่อให้ออกมาดีที่สุดเท่าที่จะพอใจ มิหนําซ้ำยังใช้ระบบ "ตัดต่อ" ฉากไหน ซีนไหน ไม่สะใจมีคอมพิวเตอร์เป็นตัวช่วย ผิดกับละครเวที ที่ต้องเล่นกันสดๆ แสดงกันสดๆ ต่อหน้าคนดู
"ต้อ-มารุต" เคยเป็นผู้กํากับละครช่อง 3 มาก่อน หลังจากที่กํากับละครเวทีมาหลายเรื่อง เป็นเพื่อนในกลุ่ม "ไก่-วรายุฑ" ที่ชักชวนเขาให้มากํากับละครช่อง 3 ละครเรื่องแรกที่ "ต้อ-มารุต" กํากับให้กับช่อง 3 คือเรื่อง "ทรายสีเพลิง" ก่อนจะปิดฉากสั่งลากับละคร "สามีตีตรา" ละครแต่ละเรื่องที่เขากํากับล้วนแต่อยู่ในระดับเรทติ้งดี แม้จะไม่ถึงขั้นดังโด่ง แต่ก็ไม่ทําให้สถานีเสียชื่อ ผู้กํากับฯ ทุกคน ไม่มีใครหรอกครับจะพอใจอยู่แค่นี้ อยากจะเป็นผู้จัดฯ เหมือนกันหมด เช่นเดียวกับบ๋อยตามภัตตาคาร ก็อยากจะเป็นกัปตัน และกัปตันก็อยากมีร้านของตัวเอง ไม่ต้องตกอยู่ในอาณัติใคร รับเงินมาเท่าไหร่เข้ากระเป๋า เข้าแบงก์ในชื่อตัวเอง
"ต้อ-มารุต" เช่นกัน เขาเคยยื่นโปรเจ็คท์ในฐานะผู้จัดละครให้กับช่อง 3 แต่ถูกปฏิเสธ สุดท้ายเลยตัดสินใจย้ายมาอยู่กับช่อง 7 สี ตั้งบริษัทตัวเองในชื่อ "เลนีตัส" ทําละครเรื่องแรกคือ "คนละโลก" ซึ่งมี "แท่ง-ศักดิ์สิทธิ์" ประกบกับ "หน่อย-บุษกร"เส้นทางของ "ต้อ-มารุต" คล้ายๆ กับ "เจี๊ยบ-กาญจนาพร ปลอดภัย" ที่เคยยื่นโปรเจ็คท์ละคร "รักเกิดในตลาดสด" ให้กับช่อง 3 แต่ไม่ผ่าน เลยหอบโปรเจ็คท์นี้มายื่นให้ช่อง 7 สี ปรากฏว่าผ่านฉลุย กลายเป็นละครที่เรทติ้งดีสุดในตอนนั้น"ต้อ-มารุต" อาจจะโชว์ผลงานทําละคร-กํากับฯ 1-2 ปีซัก 1 เรื่อง แต่เขาก็ไม่เคยบ่นน้อยอก-น้อยใจยังภักดีกับช่อง 7 สีมาตลอด เคารพการตัดสินใจของสถานี ไม่เคยเอะอะโวยวาย หรือเปิดแถลงข่าวแล้วย้ายวิกหนี
"ต้อ-มารุต" เป็นคนบันเทิงที่มองโลกในแง่ดี คบได้กับทุกคน-ทุกค่าย มีจิตใจสาธารณะ ใครชวนไปทํากิจกรรมเพื่อสังคม ถ้ามีเวลาว่างเขาจะกระโดดเข้าช่วยทันที โดยไม่มองที่ซองขาวว่าจะได้รับเท่าไหร่?ด้วยความที่เป็นคนติดดิน ไม่สถาปนาตัวเองว่า "เหนือใคร" มีส่วนสําคัญที่ทําให้ละครของ "ต้อ-มารุต" เป็นละครที่คนดูสัมผัสได้ แตะต้องได้ พร้อมกับสอดแทรกสาระให้กับคนดู มีอาหารสมองแทบทุกเรื่อง
ตอนแรกผมก็เอะใจเหมือนกัน เพราะละครเรื่องนี้ผลิตในนาม "บริษัท มาสเคอร์ เรด จํากัด" เพราะคุ้นชื่อกับ "เลนีตัส" มาก่อน ที่ไหนได้...เขาเปลี่ยนชื่อบริษัทใหม่ ไม่ว่าจะผลิตในนามบริษัทไหน-ค่ายไหน? อย่าไปใส่ใจ แค่มีชื่อ "ต้อ-มารุต" พะยี่ห้อกํากับ เชื่อขนมกินได้เลยว่า ผลงานที่ออกมาจะต้องเนี้ยบ ยิ่งได้นางเอกคู่ขวัญที่เคยร่วมงานกันมาก่อนอย่าง "ขวัญ-อุษามณี" มารับบทเด่น อะไรๆ เลยดูลงตัวไปหมด
"ขวัญ-อุษามณี" เคยร่วมงานกับ "ต้อ-มารุต" ในเรื่อง "เหลี่ยมรัก" ซึ่งรับบทเป็นคู่แฝดที่สลับร่างกันไป-มา เดี๋ยวเล่นร้าย-เล่นดี แต่ "ขวัญ-อุษามณี" ก็ใช้ความอดทน ผ่านละครเรื่องนี้ได้อย่างฉลุย กลายเป็นละครเรทติ้งดีอีกเรื่องหนึ่งของช่อง 7 สี
เมื่อผู้กํากับฯ ได้ดาราประเภทมองตาก็รู้ใจ เลยทําให้ "เพลิงพรหม" โดดเด่น ซึ่งเรื่องนี้ "ขวัญ-อุษามณี" ก็เล่นเป็น 2 ตัว คือ"ดี-ร้าย" แม้จะเป็นคนละร่าง แต่ก็ต้องฟีลลิ่งมากทีเดียว แต่ "ขวัญ" ก็ทําได้ และทําได้ดีเสียด้วย ยิ่งเวลาที่มีอารมณ์โกรธ แววตาของเธอเปล่งประกายร้ายสุดๆ ขนาดผมเป็นผู้ชายอกสามศอกดูแล้วยังสะดุ้งโหยง ถือเป็นพัฒนา-การอีกขั้นของ "ขวัญ-อุษามณี" ที่สามารถเล่นได้ทุกบท ไม่เหมือนนางเอกคนอื่นที่อินเฉพาะบทกินน้ำส้มเท่านั้น"เติ้ล-ธนพล" ตอนนี้กําลังเป็นพระเอกขึ้นหม้อของช่อง 7 สี เพิ่งจบละครเรื่อง "ป่านางเสือ" ที่เล่นคู่กับ "ยุ้ย-จีรนันท์" โผล่อีกแล้วใน "เพลิงพรหม"
"เติ้ล-ธนพล" อาจจะไม่ใช่พระเอกที่อยู่ในกระแส เพราะไม่ค่อยชอบเป็นข่าว การแสดงก็ถือว่างั้นๆ แต่คนเราทุกคนย่อมมี "จุดดี-จุดด้อย" อยู่ในตัวเองแม้ว่า "เติ้ล-ธนพล" จะไม่เด่นในเรื่องของแอ็คติ้ง แต่ในแง่ของความรับผิดชอบ ถือว่า "เหนือกว่า" ดาราคนอื่นๆ ที่สําคัญเป็นคนถ่อมตัว ไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็นซุป"ตาร์ ที่เที่ยวจิกหัวจิกหางคนอื่น ความเป็นคนสมถะของ "เติ้ล-ธนพล" ตรงนี้ มีส่วนสําคัญที่ทําให้ผู้ใหญ่ในช่อง 7 เอ็นดู และสั่ง "ดัน" เต็มที่"เพลิงพรหม" อาจจะเป็นละครดราม่า ที่ออกแนวจิตวิญญาณ
แต่ถ้าพิเคราะห์ให้ถึงแก่น จะเห็นว่า "ต้อ-มารุต" สอนคนดูอยู่ในที ไม่ว่าคนจะอยู่ในร่างไหน สวยงามปานใด แต่ถ้าจิตใจต่ำ รูปลักษณ์ภายนอกก็ช่วยอะไรไม่ได้ละครดีๆ แบบนี้จะต้องดูครับ!! ♦